เมนู

ตอบว่า ภิกษุเข้าปฐมฌาน ครั้นออกจากปฐมฌานแล้ว พิจารณาสังขารทั้งหลาย
ครั้น พิจารณาสังขารทั้งหลายแล้ว เข้าทุติยฌาน ฯลฯ เนวสัญญานาสัญญายตน-
สมาบัติ ครั้นออกจากเนวสัญญานาสัญญายตนสมาบัติแล้ว พิจารณาสังขาร-
ทั้งหลาย ด้วยอาการอย่างนี้ ภิกษุนี้ชื่อว่าเจริญปฐมวิปัสสนาให้เป็นคู่ติดกันไป.
บทว่า ธมฺมุทฺธจฺจวิคฺคหิตํ ความว่า อันอุทธัจจะได้แก่วิปัสสนูปกิเลส 10
ในธรรมคือสมถะและวิปัสสนาจับแล้ว คือ จับดีแล้ว . ด้วยบทว่า โหติ โส
อาวุโส สมโย
นี้ท่านกล่าวถึงกาลที่ได้สัปปายะ 7. บทว่า ยนฺตํ จิตฺตํ
ได้แก่ จิตที่ก้าวลงสู่วิถีแห่งวิปัสสนาในสมัยใดเป็นไปแล้ว. บทว่า อชฺฌตฺตํ-
เยว สนฺติฏฐติ
ความว่า จิตก้าวลงสู่วิถีแห่งวิปัสสนาแล้วหยุดอยู่ในอารมณ์
อันได้แก่ อารมณ์ภายในนั้นนั่นเอง. บทว่า สนฺนิสีทติ ได้แก่ นิ่งโดยชอบ
ด้วยอำนาจของอารมณ์. บทว่า เอโกทิ โหติ ได้แก่ จิตมีอารมณ์เป็นหนึ่ง.
บทว่า สมาธิยติ ได้แก่จิตตั้งไว้โดยชอบ คือตั้งไว้ดีแล้ว. คำที่เหลือในสูตรนี้
มีเนื้อความง่ายทั้งนั้น.
จบอรรถกถายุคนัทธสูตรที่ 10
จบปฏิปทาวรรควรรณนาที่ 2

รวมพระสูตรที่มีในวรรคนี้ คือ


1. สังขิตตสูตร 2. วิตถารสูตร 3. อสุภสูตร 4. ปฐมขมสูตร
5. ทุติยขมสูตร 6. อุภยสูตร 7. โมคคัลลานสูตร 8. สารีปุตตสูตร
9. สสังขารสูตร 10. ยุคนัทธสูตร และอรรถกถา.

สัญเจตนิยวรรคที่ 3

10. เจตนาสูตร


ว่าด้วยความได้อัตภาพ 4 ประการ


[171] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เมื่อกายมีอยู่ สุขทุกข์ที่เป็นภายใน
(เกิดขึ้นแก่ตน) ย่อมเกิดขึ้นเพราะกายสัญเจตนา (ความจงใจทำทางกาย)
เป็นเหตุ หรือเมื่อวาจามีอยู่ สุขทุกข์ที่เป็นภายในย่อมเกิดขึ้น เพราะวจีสัญ-
เจตนา (ความจงใจทำทางวาจา) เป็นเหตุ หรือเมื่อใจมีอยู่ สุขทุกข์ที่เป็น
ภายในก็ย่อมเกิดขึ้น เพราะมโนสัญเจตนา (ความจงใจทำทางใจ) เป็นเหตุ
อีกอย่างหนึ่ง เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย บุคคลย่อมปรุงแต่งกายสังขาร
วจีสังขาร มโนสังขาร อันเป็นปัจจัยให้สุขทุกข์ภายในนั้นเกิดขึ้นด้วยตนเอง
บ้าง คนอื่นปรุงแต่งกายสังขาร วจีสังขาร มโนสังขารของบุคคลนั้น
อันเป็นปัจจัยให้สุขทุกข์ภายในเกิดขึ้นแก่บุคคลนั้นบ้าง บุคคลนั้นรู้อยู่
ปรุงแต่งกายสังขาร วจีสังขาร มโนสังขารนั้น อันเป็นปัจจัยให้สุขทุกข์ภายใน
เกิดขึ้นบ้าง บุคคลนั้นไม่รู้ ปรุงแต่งกายสังขาร วจีสังขาร มโนสังขาร
นั้นอันเป็นปัจจัยให้สุขทุกข์ภายในเกิดขึ้นบ้าง ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อวิชชา
ย่อมติดตามไปในธรรมเหล่านี้
เพราะอวิชชาดับสิ้นไปไม่เหลือ กาย วาจา ใจ ย่อมไม่เป็นปัจจัย
ให้สุขทุกข์ภายในนั้นเกิดขึ้นแก่บุคคลนั้น เขตอันเป็นปัจจัยให้สุขทุกข์ภายใน
นั้นเกิดขึ้นย่อมไม่มี วัตถุ อายตนะ อธิกรณะ อันเป็นปัจจัยให้สุขทุกข์
ภายในนั้นเกิดขึ้น ก็ย่อมไม่มี